ภาพรวมของ CRM

การดำเนินงานของ CRM – เราเริ่มต้นกับลูกค้าของคุณ (ลูกค้าจะกลับมาเสมอ)

ใน CRM “ลูกค้า” จะนำมาเป็นจุดเริ่มต้นของความคิดในทุกโอกาส ภาพรวมของ CRM คือ การรวบรวม และจัดการข้อมูลลูกค้า วิเคราะห์ข้อมูลจากมุมมองต่าง ๆ เพื่อสร้างผลลัพธ์ โดยการวางแผน ดำเนินการสื่อสารกับลูกค้า ประเมินผล ปรับปรุง และดำเนินการให้สอดคล้องกับกิจกรรมทางการตลาด กระบวนการทำงานนี้ (PDCA) ต้องทำอย่างต่อเนื่อง


ขั้นตอนการทำงานของ CRM

(1) รวบรวม และการจัดการข้อมูลลูกค้า

สิ่งแรกที่คุณต้องรู้ และขาดไม่ได้เกี่ยวกับลูกค้าของคุณก็คือ ข้อมูลลูกค้า
ต่อไปนี้คือตัวอย่างข้อมูลลูกค้า

  • (รายละเอียดขั้นพื้นฐาน) ชื่อ, อีเมล, โทรศัพท์, ที่อยู่, เพศ, อายุ, อาชีพ ฯลฯ
  • (ข้อมูลการสั่งซื้อ) สินค้า, ยอดการสั่งซื้อ, สถานที่ซื้อ, การรับประกันสินค้า เป็นต้น
  • (การเข้าถึงข้อมูล) การใช้งานของเว็บไซต์ (ประวัติการเข้าสู่ระบบ, ประวัติการเรียกดูเนื้อหาเว็บไซต์ ฯลฯ)

หากคุณไม่ได้เป็นเจ้าของข้อมูลลูกค้าของคุณ(=ผู้ใช้) เนื่องจากข้อมูลอยู่ที่ตัวแทนจำหน่ายสินค้า และบริการของคุณ สิ่งแรกที่ต้องทำคือการสร้างกลไกที่จะสามารถรวบรวมสะสมข้อมูลลูกค้าไว้ตามตัวอย่างภาพด้านข้าง ตัวอย่างกลไก เช่น สร้างเว็บไซต์การรับประกันซึ่งสามารถตรวจสอบข้อมูลการรับประกันของผลิตภัณฑ์ในเว็บไซต์ได้ หรือการทำระบบสมาชิก โดยเพิ่มสิทธิพิเศษ และประโยชน์ต่าง เพื่อเป็นแรงจูงใจให้กับสมาชิก

แม้ว่าจะมีข้อมูลลูกค้าอยู่ก็ตาม มีหลายกรณีที่การเตรียมข้อมูลเหล่านี้ล่วงหน้า เช่น CSV, excel, แบบสอบถาม และบัตรรับประกัน ในกรณีเช่นนี้ต้องกำหนดรูปแบบการรวบรวมข้อมูลเพื่อให้ข้อมูลมีความถูกต้อง และพร้อมใช้งาน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากของการทำ CRM

(2) การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า - แสดงภาพรวมของลูกค้า

ในขั้นตอนนี้จะวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าที่เก็บรวบรวม วิธีการวิเคราะห์แตกต่างกันไปในแต่ละบริษัท แต่ถือว่าเป็นเรื่องปกติ

  • ระดับการมีส่วนร่วม : มีส่วนร่วมในการขาย (จำนวนเงินที่ใช้ไป)
  • พฤติกรรมการซื้อ : แนวโน้มการซื้อ เช่น ค่าเฉลี่ยที่ใช้ต่อการซื้อ # รายการซื้อ, ความถี่ในการซื้อ, วันที่ซื้อล่าสุด เป็นต้น

ดำเนินการวิเคราะห์จากข้อมูลโปรไฟล์ข้างต้น และข้อมูลพื้นฐาน เช่น เพศ, อายุ, สถานที่ ฯลฯ การทำเช่นนี้คุณสามารถเข้าใจแนวโน้มปัจจุบันของลูกค้าเพื่อหาจุดปรับปรุงได้ นอกจากนี้เป็นการดีที่จะสร้างอันดับลูกค้าของคุณเพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง เช่น ตัวอย่างภาพด้านล่าง อันดับของลูกค้ามีการกำหนดไว้ใน 4 กลุ่ม แต่ก็ยังสามารถกำหนดเงื่อนไข และอันดับเพิ่มเติมได้ จุดสำคัญ คือ อันดับของลูกค้าถูกกำหนดขึ้นตามลำดับของการมีส่วนร่วม


[ตัวอย่างอันดับของลูกค้า]

ความหมายของอันดับของลูกค้า # จำนวนลูกค้า ยอดขาย
(THB)
VIP มียอดซื้อมากกว่า 30,0000 บาท หรือมีรายการสั่งซื้อมากกว่า 8 รายการ (ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา) 2,000 110,000,000
ลูกค้าประจำ มียอดซื้อ10,000 ~ 29,000 บาท หรือมีรายการสั่งซื้อมากกว่า 3 - 7 รายการ (ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา) 5,000 120,000,000
ลูกค้าใหม่ มียอดซื้อน้อยกว่า 9,999 บาท หรือมีรายการสั่งซื้อมากกว่า 1 - 3 รายการ (ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา) 20,000 70,000,000
ลูกค้าที่มีศักยภาพ ไม่เคยซื้อ 8,000 -


(3) สร้างแผนการสื่อสาร

กล่าวอีกนัยหนึ่ง CRM คือ " เพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารกับลูกค้า” “แผนการสื่อสารที่จะสื่อสาร“ ถึงใคร (= การแบ่งกลุ่มลูกค้า), สิ่งที่เราคาดหวัง(= วัตถุประสงค์), ประเภทของข้อความ (= เนื้อหา), ส่งมอบอย่างไร (= วิธีการสื่อสาร)” ขึ้นอยู่กับผลการวิเคราะห์ในขั้นตอนก่อนหน้านี้


[ตัวอย่างแผนการสื่อสาร]

การแบ่งกลุ่มลูกค้า วัตถุประสงค์ เนื้อหา วิธีการสื่อสาร KPI
การจัดอันดับ เงื่อนไขอื่น ๆ # จำนวนลูกค้า
VIP - (ทั้งหมด) 2,000 รักษา และให้ความสำคัญด้วยการแสดงว่าเป็นลูกค้าที่สำคัญที่สุดสำหรับเรา “งานเลี้ยงพิเศษสุดสำหรับลูกค้าวีไอพี”
เพลิดเพลินกับงานเลี้ยงอาหารค่ำพิเศษและจำหน่ายสินค้ารุ่นพิเศษ ที่โรงแรม
・โทรศัพท์
・DM (Direct mail)
20% ของลูกค้ามีแนวโน้มเข้าร่วมกิจกรรม
ลูกค้าประจำ ไม่มีการซื้อภายในหนึ่งปี 3,000 ให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง "แคมเปญทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่"
ให้ยืมผลิตภัณฑ์ใหม่ฟรีเป็นระยะเวลาหนึ่งแก่ผู้สมัครทั้งหมด
Email 15 % ของลูกค้ามีแนวโน้มเข้าร่วมกิจกรรม
ลูกค้าใหม่ - (ทั้งหมด) 20,000 ให้พวกเขาจดจำเราสำหรับการซื้อในอนาคต “ข้อความขอบคุณ”
ข้อความขอบคุณสำหรับการซื้อครั้งแรก, เคล็ดลับในการใช้ และวิธีการดูแลผลิตภัณฑ์
Email 30% ของลูกค้ามีแนวโน้มที่จะเปิดอีเมล์
ลูกค้าที่มีศักยภาพ - (ทั้งหมด) 8,000 ให้โอกาสในการซื้อ "ยินดีต้อนรับสู่แคมเปญ"
ให้ของขวัญฟรีเมื่อซื้อครั้งแรกภายในระยะเวลาที่แคมเปญกำหนด
・Email
・SMS
・Online advertising
10% ของลูกค้ามีแนวโน้มที่จะซื้อ


(4) ดำเนินการตามแผนสื่อสาร

หลังจากสร้างแผนการสื่อสารขึ้นแล้ว ก็จำเป็นต้องจัดเตรียมเครื่องมือในสื่อสาร เช่น direct mail, อีเมล์, แคมเปญออนไลน์, แบบฟอร์มใบสมัคร, ภาพแบนเนอร์ ฯลฯ เมื่อมีการจัดเตรียมส่งข้อความถึงลูกค้าแต่ละราย ควรคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดในการใช้เครื่องมือเหล่านี้ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อสื่อสารข้อมูลต่างๆ กับกลุ่มเป้าหมาย



(5) ตรวจสอบผลลัพธ์

ตรวจสอบผลลัพธ์ของการสื่อสารที่ดำเนินการ เช่น

  • ความแตกต่างระหว่าง KPI กับความเป็นจริง # ของผู้เข้าร่วมกิจกรรม
  • ความแตกต่างระหว่าง KPI กับความเป็นจริง # ของผู้สมัครแคมเปญ
  • ความแตกต่างระหว่าง KPI กับความเป็นจริง # ของอัตราการเปิดอีเมล
  • ความแตกต่างระหว่าง KPI กับความเป็นจริง # ของลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์

(6) วิเคราะห์ผลลัพธ์

คาดเดาปัจจัยที่อยู่เบื้องหลังผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงข้างต้น และใช้เพื่อปรับปรุง

[ตัวอย่างของปัจจัยเมื่อผลลัพธ์ไม่บรรลุตาม KPI]

  • KPI เป็นตัวเลขที่ไม่สมจริง
  • แคมเปญ / กิจกรรมไม่ได้ดึงดูดเป้าหมาย
  • ขั้นตอนการใช้งานยุ่งยาก (เช่น “วิธีสมัครเข้าร่วมแคมเปญ” ยากที่จะเข้าใจ, หน้าแอปพลิเคชันแคมเปญใช้งานยาก)
  • เนื้อหาอีเมลยาวเกินไปสำหรับการอ่านทั้งหมด
  • หัวเรื่องอีเมล (Email subject) ยากที่จะเข้าใจ ทำให้อัตราการเปิดอีเมลต่ำ

พลังของการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

(1) ~ (6) จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุณให้ความสำคัญในทุกเรื่องไม่ใช่เฉพาะครั้งแรก ซึ่งการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง นั้นมีความสำคัญอย่างมาก CRM เป็นวิธีการจัดการที่มุ่งเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าด้วยการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง คล้ายกับความสัมพันธ์ส่วนบุคคล การสื่อสารเพียงครั้งเดียวยากที่จะทำลูกค้ามีความประทับใจ และรู้สึกผูกพัน นี่คือ พลังของการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง